นิทานอีสปเรื่อง พ่อไก่กับพลอย |
"The ignorant despise what is precious only because they cannot understand it"
นิทานอีสปเรื่อง พ่อไก่กับพลอย |
A Cock was busily scratching for food for himself and his hens, found a precious stone; on which he said:
พ่อไก่หนุ่มตัวหนึ่งพร้อมกับฝูงแม่ไก่ กำลังคุ้ยดินหากินอยู่ใกล้ๆกับทุ่งนา ขณะที่มันกำลังคุ้ยดินอยู่นั้นได้พบเอาพลอยงดงามเม็ดหนึ่ง มันจึงเอ่ยขึ้นว่า
"If they owner had found thee, and not I, he would have taken thee up, and have set thee in they first estate; but I have found thee for no purpose. I would rather have one barleycorn than all the jewels in the world."
"ถ้านายมาพบเจ้าละก็ เขาจะต้องเก็บเจ้าขึ้นไปแน่ทีเดียว เพราะเจ้ามีค่าสำหรับเขา แต่สำหรับข้า เจ้าไม่มีค่าเลยแม้แต่น้อย อันที่จริง ข้าวสักเมล็ดนั้น ยังจะมีค่ามากกว่าเจ้า พวกเพชรพลอยทั้งหมดในโลกเสียด้วยซ้ำ "
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"The ignorant despise what is precious only because they cannot understand it"
“คนที่รู้ความต้องการของตนจะมีความสุข คนฉลาดชอบสิ่งที่จำเป็น มากกว่าเครื่องประดับอันระยิบระยับ ซึ่งไม่มีค่าอันใด นอกจาก ก่อให้เกิดความเย่อหยิ่งและความฟุ้งเฟ้อ”
คำศัพท์น่ารู้ (Vocaburaly)
Scratch (v.) = ขูดออก, ตะกุยออก
precious stone (n.) = เพชรพลอย
Purpose (n.) = วัตถุประสงค์
barleycorn (n.) = เมล็ดข้าวบาเล่ย์
Jewel (n.) = พลอย, อัญมณี
ignorant (adj.) = ไม่ตระหนักในบางสิ่ง
The Miser
นิทานอีสปเรื่อง ชายขี้เหนียว |
“Wealth unused might as well not exist.”
นิทานอีสปเรื่อง ชายขี้เหนียว |
A miser sold all that he had and bought a lump of gold, which he buried in a hole in the ground by the side of an old wall and went to look at daily.
ชายขี้เหนียวคนหนึ่งขายทรัพย์สินในบ้านของตัวเองจนหมด เพื่อนำไปแลกเป็นทองคำแท่ง แล้วนำมันไปซ่อนไว้ที่กำแพง ทุก ๆ วันเขาจะเดินไปดูว่ายังอยู่ครบหรือไม่
One of his neighbor observed his frequent visits to the spot and decided to watch his movements. He soon discovered the secret of the hidden treasure, and digging down, came to the lump of gold, and stole it.
เมื่อเพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นเห็นเข้า ก็สงสัยในพฤติกรรมของเขาจึงคอยจับตาดูตลอดเวลา วันหนึ่งด้วยความอยากรู้ของเพื่อนบ้าน เขาจึงแอบตามไปดู พอรู้ความจริง เขาก็แอบขโมยทองคำนั้นไป
The Miser, on his next visit, found the hole empty and began to tear his hair and to make loud lamentations. A neighbor, seeing him overcome with grief and learning the cause, said, “Pray do not grieve so; but go and take a stone, and place it in the hole, and fancy that the gold is still lying there.
วันต่อมาเมื่อชายขี้เหนียวกลับมาดูอีกครั้ง ก็พบว่าทองคำแท่งได้หายไปแล้ว เขารู้สึกเสียดาย ไม่รู้จะไปตามหาทองคำแท่งคืนได้ที่ไหน ได้แต่นั่งร้องไห้ ตีอกชกตัวเองอยู่อย่างนั้น จนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเห็นและรู้เรื่องจึงพูดว่า "เพื่อนเอ๋ย อย่าเสียใจไปเลย เพื่อนลองทำแบบนี้ไหม ลองหาก้อนหินมาวางไว้ในโพรงนี้แทน แล้วเพื่อนก็คิดว่ามันเป็นทองคำแท่ง แค่นี้เพื่อนก็จะมีความสุขแล้ว
It will do you quite the same service; for when the gold was there, you had it not, as you did not make the slightest use of it.”
อีกอย่างทำอย่างนี้ก็ไม่ต่างจากตอนที่ทองคำของเพื่อนยังอยู่หรอก เพราะถึงจะมีทองคำ ยังไงเพื่อนก็ไม่ได้เอามันไปใช้อยู่ดี แค่เอามาซ่อนไว้แล้วถึงเวลาก็มาดูไปวันๆ"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“Wealth unused might as well not exist.”
ทรัพย์สินมากมายเพียงใด แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้มัน ก็เหมือนกับเราไม่เคยได้ครอบครองมันนั่นเอง
คำศัพท์น่ารู้ (Vocabulary)
frequent (adj.) = เป็นประจำ
discover (v.) = ค้นพบ
empty (adj.) = ว่างเปล่า
treasure (n.) = สมบัติ
Pray (v.) = ภาวนา, อธิฐาน
grieve (v.) = เศร้าโศกเสียใจ
wealth (n.) = ทรัพย์สินมากมาย
lamentation (n.) = ร้องให้คร่ำครวญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น